ประชาคมโลกได้ยอมรับและตระหนักถึงคำว่า “สิทธิมนุษยชน” อย่างเป็นทางการ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สหประชาชาติได้ร่วมกันรับรอง “ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน” อันแสดงให้เห็นถึงความมุ่งหมายของมวลมนุษยชาติ ที่ต้องการร่วมสร้างความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ เพื่อให้ทุกคนในฐานะมนุษย์เช่นเดียวกันได้รับการเคารพในสิทธิ เสรีภาพ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิมนุษยชน ไม่ใช่เพียงสิทธิตามกฎหมายที่ได้รับการ รับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และสนธิสัญญาระหว่างประเทศเท่านั้น แต่สิทธิมนุษยชนเป็นสิทธิธรรมชาติที่ติดตัวเราทุกคนมาตลอด สิทธิมนุษยชนจึงมีความสำคัญกับชีวิตทุกคนบนโลก ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐและตัวเราที่ต้องพิทักษ์รักษาสิทธิ์นี้ไว้ รวมทั้งเคารพในสิทธิของผู้อื่น
หลัก “สิทธิมนุษยชน” ได้รับการรับรองไว้ตามมาตรา 4 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ซึ่งบัญญัติว่า “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคล ย่อมได้รับความคุ้มครอง” หลายคนอาจเห็นว่า สิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องนามธรรมและจับต้องได้ยาก แต่แท้จริงแล้ว “สิทธิมนุษยชน” เป็นเรื่องใกล้ตัว และเป็นสิทธิพื้นฐานที่ติดตัวเราทุกคนมาตั้งแต่เกิด รายล้อมอยู่รอบตัวในทุกช่วงวัย จนถึงวันที่เสียชีวิต เช่น เมื่อยังเด็กเราควรได้เรียนหนังสือ เมื่อเติบโตควรมีงานทำเพื่อเลี้ยงชีพและได้มีส่วนร่วมทางการเมือง และเมื่อเจ็บป่วยก็ควรได้รับบริการด้านสุขภาพอนามัยที่ดีและได้รับบริการป้องกันโรคฟรีจากรัฐ
“เพราะสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของทุกคน” และเราในฐานะมนุษย์เช่นเดียวกันต้องได้รับสิทธินั้นอย่างเสมอภาค หากถูกละเมิด หรือ พบเห็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่านิ่งดูดาย ร้องเรียนได้ที่ สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สายด่วน 1377
