ข่าวประชาสัมพันธ์

การฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อมะเร็งปากมดลูก เอชพีวี (HPV)

วันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 นายภูวดล ภูสิม ผู้อำนวยการ นายชฎิล แฝงยงค์ รองผู้อำนวยการ มอบหมายให้งานอนามัยโรงเรียน นำนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3-6 เข้าร่วมการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อมะเร็งปากมดลูก เอชพีวี (HPV) จากโรงพยาบาลชื่นชม ทั้งนี้โรงพยาบาลชื่นชมได้ให้ความรู้เรื่องมะเร็งปากมดลูกกับนักเรียนด้วย ซึ่งเป็นไปตามนโยบายเร่งรัด 100 วัน ของกระทรวงสาธารณสุข “Save Our School Children by 1Million HPV Vaccines”

HPV คืออะไรมีกี่ประเภท

HPV เป็นเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เชื้อแปปิโลมา หรือเอชพีวี (HPV) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อเนื้อเยื่อบุผิว ส่งผลให้เกิดโรคบริเวณอวัยวะเพศและทวารหนัก พบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ที่อันตรายต่อร่างกายมากที่สุดคือ สายพันธุ์ 16 และ 18


ติดง่ายแค่ไหนการแพร่กระจายเชื้อเป็นอย่างไร

การติดเชื้อ HPV มักติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทวารหนัก ปาก โดยแพร่เชื้อผ่านรอยแผล หรือรอยขีดข่วนตามผิวหนัง หรือสัมผัสผิวหนัง อีกทั้งสิ่งของปนเปื้อนเชื้อจากผู้ป่วย ที่น่าเป็นห่วงคือ หญิงตั้งครรภ์ที่มีเชื้อ HPV อาจแพร่เชื้อสู่ลูกระหว่างการคลอดได้ ด้วยการสัมผัสเชื้อโดยตรงหรือการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้ที่มีเชื้อ HPV อยู่ในร่างกายมักไม่มีอาการแสดงใด ๆ  จึงอาจแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว


อาการเมื่อติดเชื้อ HPV เป็นอย่างไร

ผู้ที่ติดเชื้อ HPV ส่วนใหญ่จะไม่แสดงอาการ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายจะกำจัดเชื้อไวรัสได้ก่อนเป็นหูด ซึ่งลักษณะของหูดจะแตกต่างตามสายพันธุ์ไวรัส ได้แก่

  • หูดทั่วไปจะเป็นตุ่มเล็ก ๆ ที่อาจขึ้นตามมือ นิ้ว ข้อศอก มีสีเนื้อ สีขาว สีชมพู สีน้ำตาลอ่อน บริเวณที่พบคือ มือ นิ้วมือ ข้อศอกแม้ไม่อันตราย แต่อาจทำให้เจ็บปวด โดยผิวหนังที่เกิดหูดอาจมีเลือดออกได้ง่าย
  • หูดแบนราบจะมีสีเข้มกว่าปกติและนูนขึ้นมาเล็กน้อย มีขนาดเล็ก พื้นเรียบ เกิดขึ้นได้ทุกส่วนของร่างกาย โดยผู้หญิงมักพบที่ขา ผู้ชายมักพบที่เครา เด็กมักพบที่ใบหน้า 
  • หูดบริเวณอวัยวะเพศหรือหูดหงอนไก่ เป็นติ่งเนื้อคล้ายดอกกะหล่ำที่เกิดขึ้นบริเวณอวัยวะเพศหญิง อวัยวะเพศชาย และทวารหนัก มักรู้สึกคัน แต่ไม่เจ็บปวด
  • หูดบริเวณฝ่าเท้ามักขึ้นตรงส้นเท้าหรือเนินปลายเท้า มีลักษณะเป็นตุ่มแข็ง ไม่ว่ายืนหรือเดินจะรู้สึกเจ็บ

กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ HPV คือใคร

  • หญิงชายที่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • เด็กและวัยรุ่น โดยเฉพาะเด็กวัยเจริญพันธุ์
  • ผู้ที่มีแผลหรือรอยขีดข่วนตามผิวหนัง
  • ผู้ที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ ฯลฯ
  • ผู้ที่สัมผัสหูดหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนเชื้อโดยไม่ได้สวมถุงมือเพื่อป้องกัน
  • ผู้ที่ใช้สถานที่ที่มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย เช่น ห้องอาบน้ำสาธารณะ สระว่ายน้ำ ฯลฯ

วิธีป้องกันการติดเชื้อ HPV ทำอย่างไร

  • ผู้ที่มีอายุ 9 – 26 ปี แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก 4 ชนิด 
  • ผู้หญิงที่มีอายุ 21 – 65 ปี ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุกปี 
  • สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ 
  • ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
  • ไม่ควรแกะหรือเกาหูดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อไปสู่ผู้อื่น
  • สวมรองเท้าเมื่ออยู่ในสถานที่ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น สระว่ายน้ำสาธารณะ ห้องอาบน้ำรวม ฯลฯ

วิธีการรักษาหากติดเชื้อ HPV เป็นอย่างไร

หากติดเชื้อ HPV วิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับอาการที่พบเป็นสำคัญ โดยผู้ที่เป็นหูดจะรักษาโดยการใช้ยา ส่วนผู้ที่เป็นมะเร็งอาจต้องเข้ารับการฉายรังสีหรือผ่าตัด หากรู้เร็วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาและมะเร็งไม่ลุกลามจนสายเกินไป


ตรวจเชื้อ HPV ด้วยตัวเองทำอย่างไร

ปัจจุบันมี HPV Self–Collected Test ชุดเก็บตัวอย่างเซลล์ด้วยตัวเองเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ที่ออกแบบเพื่อเก็บสิ่งตรวจไปตรวจวิเคราะห์การติดเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูก โดยจะมีไม้เก็บสิ่งตรวจและชุดน้ำยาที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา (US-FDA) ในการเก็บสิ่งตรวจจากปากมดลูกชั้นในของคุณผู้หญิงเพื่อนำไปใช้ทดสอบกับชุดตรวจแอพติมาเอชพีวี คลามัยเดีย ทราโคมาติส และนีสซีเรีย โทโนเรียในห้องปฏิบัติการเพื่อวิเคราะห์ผลต่อไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *